Cr. pantip.com
วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561
แมวพันธุ์โซมาลี
แมวโซมาลี
แมวโซมาลี
แมวโซมาลี
โซมาลี...ชื่อนี้ไม่ใช่นางในนิยายหรือเรื่องแต่ง หากแต่ชื่อเป็นเจ้าเหมียวพันธุ์หนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศแคนาดาจากการผสมพันธุ์ แมวพันธุ์นี้มีช่วงลำตัวยาว ขนนุ่มราวเส้นไหม และหางที่คล้ายกระรอก อีกทั้งนิสัยที่เป็นมิตร ร่าเริง และปราดเปรียว เป็นสัญลักษณ์เด่นให้คนรักแมวทั่วโลกจดจำแมวโซมาลี
ลักษณะประจำสายพันธุ์ของ แมวโซมาลี จะคล้ายกันกับแมวอะบิสซิเนียน เนื่องจากมันมีเลือดผสมของแมว Abyssinian มาด้วยนั่นเอง ดังนั้น แมวโซมาลี จึงมีขนยาว ทว่าก็ไม่ยาวมากนัก ลำตัวยาว ลักษณะหางอ่อนโค้ง ศีรษะลาดกลม กลางศีรษะเป็นสันนูนใหญ่ มีจุดรอยแต้มที่ใบหู นัยน์ตากลมรี มีหลากสีสัน
ว่ากันว่า ขนของแมวโซมาลี คล้ายกับขนกระรอกประเภท Dasgprocta หรือ Myoprocta คือ ขนจะขึ้นหนาทึบ แต่จะนุ่มราวเส้นไหม มีขนปุกปุยบริเวณใบหูและจะมีขนสีแดงขึ้นรอบบริเวณใบหู ส่วนขนตรงบริเวณหางคล้ายรูปทรงคล้ายกระรอก แต่มีลักษณะคล้ายขนนก คือ มีขนเป็นริ้ว ๆ
อย่างไรก็ตาม แมวพันธุ์โซมาลี ยังไม่เป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย และยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าใดนัก แต่มันเป็นที่รู้จักดีทั้งในยุโรปและแคนาดา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, skn.ac.th, pirun.ku.ac.th
วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561
แมวพันธุ์ทอยเกอร์
แมวพันธุ์ทอยเกอร์ (Toyger)
จากชื่อแมวพันธุ์ทอยเกอร์นี้ก็น่าจะพอเดา ๆ น่าตากันได้ว่ามันเป็นอย่างไร ชื่อของมันมาจากคำว่า Toy +Tiger เหมือนลักษณะอันโดเด่นของเจ้าแมวพันธุ์นี้
|
ประวัติของแมวพันธุ์ Toyger
เป็น แมวสายพันธุ์ หนึ่งที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดย Judy Sudgen เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาอนุรักษ์เสือป่ากันมากยิ่งขึ้น
แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx cat)
แมวสฟิงซ์ (Sphynx cat)
แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)
แมวพันธุ์สฟิงซ์หลายคนรู้จักกันดีในฉายเจ้าแมวไร้ขน หรือหลายคนคงไปนึกถึงรูปปั้นที่หัวเป็นคนตัวเป็นสิงโตที่อียิปต์ไม่ใช่นะคะเราพูดถึงแมวกันอยู่ = = '' แมวพันธุ์นี้บางคนก็ว่าแมวประหลาดแต่บางคนกลับหลงรักเจ้าแมวพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะอะไรนะเหรอมาดูกันดีกว่า
- ถิ่นกำเนิด มีคนถกเถียงกันว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์หรือฮาวายกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือมันถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในแคนดา
- ลักษณะ หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ
บ้านแมวสฟิงซ์ House of Sphynx Cat หรือติดต่อเข้าไปเยี่ยมชมบ้านแมวสฟิงซ์ ตั้งอยู่ ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
แมวพันธุ์สีสวาดหรือแมวโคราช (Korat cat)
แมวสีสวาดหรือแมวโคราช (Korat cat)
แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)
แมวสีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากันเลย
- ถิ่นกำเนิด จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
- ลักษณะ ลักษณะที่เป็นข้อเด่น- ลักษณะสีขน ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย- ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน- ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน- ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัวคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมากลักษณะที่เป็นข้อด้อยขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
แมวพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan Persian cat)
แมวหิมาลายัน (Himalayan Persian cat)
แมวพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan Persian)
พอได้ยินว่ารู้จักแมวพันธุ์หิมาลายันกันไหม เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักแต่ถ้าพูดถึงแมวเปอร์เซียก็ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่ แมวหิมาลายันนั้นแท้จริงแล้วเป็นแมวเปอร์เซียสายพันธุ์หนึ่งนี่แหละค่ะ แล้วทำไมต้องเรียกให้ยุ่งยากนะเหรอ งั้นมาทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า
- ถิ่นกำเนิด จากสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่เทือกเขาหิมาลัยนะคะ จากเว็บต่างประเทศทั้งหลายที่ได้เข้าไปศึกษามา)
- สายพันธุ์ เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)
- ลักษณะ เป็นแมวขนาดเล็ก ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4,หาง 1 และอวัยวะเพศ 1 จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วยนะคะ
แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx cat)
แมวแมงซ์ (Manx cat)
แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)
แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ แต่โดยภาพรวมของแมวแมงซ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่หางของมันซึ่งไม่เหมือนกับพันธุ์แมวอื่น ๆ อย่างแน่นอน เป็นอย่างไรนั้นมาทำความรู้จักกับมันหน่อยดีกว่า
- ถิ่นกำเนิด ประเทศอังกฤษ
- สายพันธุ์ เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์ โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
- ลักษณะ เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่ายเลยค่ะ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว
แมวพันธุ์อเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair)
แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair)
แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair cat)
จากที่เมื่อวานได้พูดถึงแมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ลกันไปแล้วนะคะ วันนี้ก็ขอต่อกันด้วยกับสายพันธุ์จากชาติอเมริกาอีกสักหนึ่งสายพันธุ์ก็แล้วกัน ก็คือเจ้าอเมริกัน ช๊อตแฮร์กันดีกว่าเพราะสายพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาก ๆ พอ ๆ กับเจ้าเปอร์เซียกันเลยนะคะ แล้วคุณจำหน้ามันได้ไหมคะว่าเจ้าแมวพันธุ์นี้ได้โฆษณาอาหารแมววิสกัสกันด้วยนะ
- ถิ่นกำเนิด จากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัวและได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน
- ลักษณะ เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสีเขียว มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ มีตั้งแต่ สีน้ำตาล striking tabby ไปจนถึง แมวสีขาวตาสีฟ้าสดใส หรือ shaded silversสี smoke และสี camero รวมทั้งสี calico van และสีอื่นในระหว่างนี้ แต่สีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือสี silver tabby โดยจะมีลายสีดำเข้ม พลาดอยู่บนพื้นสีเงิน (ลายเสือ)
แมวพันธุ์เปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
เพราะ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย
แมวเปอร์เซีย มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684 ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นำแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีปยุโรป ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกำเนิดนั่นเอง
นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian
ลักษณะสายพันธุ์
แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา
สำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรก ๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkoksync ขอบคุณภาพจาก annie, vounและ เปียกปูนนี่ facebook
แมวเปอร์เซีย ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
เพราะ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย
แมวเปอร์เซีย มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684 ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นำแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีปยุโรป ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกำเนิดนั่นเอง
นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian
ลักษณะสายพันธุ์
แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา
สำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรก ๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkoksync ขอบคุณภาพจาก annie, vounและ เปียกปูนนี่ facebook
แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน
แมวพันธุ์อะบิสซิเนียน (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
โดย สาธิต สุธีสิทธิวงศ์
แมว อะบิสซิเนียน (Abyssinians) เป็นแมวที่สืบสายพันธุ์มาจากแมวของชาวอียิปต์โบราณ ที่เป็นที่เคารพสักการะบูชา เป็นแมวที่มีสีสันสวยงาม และมีสีขนที่มีลักษณะเป็นสีสลับกันในเส้นเดียวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน Abyssinian เป็นแมวที่มีขนาดปานกลาง และมีลักษณะท่าทางภายนอกที่สง่าผ่าเผย เป็นแมวที่มีความแข็งแรงดูมีกล้ามเนื้อ มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งที่อยู่รอบตัวมัน แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลภายใน แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางอารมณ์ที่มีความกลมกลืนกัน
นอกจากนี้ แมว อะบิสซิเนียน ยังเป็นแมวที่มีความรักเจ้าของ ฉลาดปราดเปรียว และมีความขี้เล่นประสาแมว แมว อะบิสซิเนียน จึงจัดเป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ชอบเลี้ยงแมวในปัจจุบัน
Abyssinian
ลักษณะทั่วไปของ แมว อะบิสซิเนียน
แมว อะบิสซิเนียน มีสีสันสดใสสวยงาม มีขนที่มีลักษณะเป็น ticked คือ ลักษณะที่สีขนมีสีสลับกันสองสีภายในเส้นเดียวกัน สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นลักษณะเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ มีขนาดรูปร่างที่ไม่ใหญ่มาก ขนาดปานกลาง และมีลักษณะประจำสายพันธุ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การมีท่าทางที่สง่างาม เช่นเดียวกับสัตว์ที่อยู่ในป่า เช่น เสือหรือสิงโต มีขนาดสัดส่วนของร่างกายที่เหมาะสม ทำให้รูปร่างของลำตัวเกิดความสมดุลย์
ศีรษะ - มีลักษณะเป็นรูปลิ่มเป็นสันสูง ไม่มีลักษณะที่เป็นแผ่นเรียบ และสันรูปลิ่มนี้จะต่อยาวลงมาถึงบริเวณต้นคอ ขนทางด้านหน้าบริเวณศีรษะมีลักษณะเป็นรูปตัว M
ใบหูู - มีลักษณะที่ว่องไวปราดเปรียว คอยระแวดระวังภัย เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา มีลักษณะของหูที่ใหญ่ อีกทั้งยังมีส่วนของใบหูที่กว้างขยายออก และมีรูปร่างของหูเป็นรูปถ้วย ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการรับฟังเสียงจากภายนอกได้อย่างชัดเจน
ดวงตา - มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับเมล็ดอัลมอนด์ มีขนาดของดวงตาที่ใหญ่ ที่บริเวณขอบตามีสีของเส้นขนที่เข้ม ล้อมอยู่โดยรอบบริเวณดวงตาที่มีลักษณะสีขนที่อ่อนกว่า จึงเป็นการเน้นบริเวณดวงตาให้เห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับสีของดวงตานั้นที่พบได้โดยมาก จะเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว
ลำตัว - มีความยาวปานกลาง สามารถโค้งงอได้อย่างเป็นสัดส่วน ดูสวยงามเป็นสง่า มีการเจริญของกล้ามเนื้อดี สามารถเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก และที่สำคัญที่สุด คือ มีความสมดุลของร่างกาย มีกระดูกที่แข็งแรงและสามารถยืนด้วยปลายเท้าได้อย่างมั่นคง
หาง - ค่อนข้างที่จะยางเรียว และค่อยๆ เรียวเล็กลงไปเรื่อยๆ จากบริเวณโคนหางถึงปลายหาง
ขน - มีลักษณะที่นุ่ม เรียบลื่นและเป็นมันเงา
ขาและเท้า - มีลักษณะของขาภายนอกที่ยาวเรียวได้สัดส่วน มีส่วนของกระดูกขาเจริญและแข็งแรงดี อุ้งเท้ามีขนาดเล็ก กลมรีเป็นรูปไข่ และอัดตัวกันแน่น
นิ้วเท้า - ที่บริเวณขาหน้ามี 5 นิ้ว และบริเวณขาหลังมี 4 นิ้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wikipedia.org, kittymeowtoys.com
วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561
แมวพันธุ์วิเชียรมาศ
แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)
จากครั้งที่แล้วพูดถึงแมวบาหลีกันไปแล้ว คราวนี้มารู้จักต้นกำเนิดของมันกันดีกว่าก็คือแมววิเชียรมาศอันสวยงามของไทยเรานี่เอง เป็นแมวไทยที่ดังมากในต่างประเทศ และถือเป็นต้นตำรับของการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย เท่าที่รู้ ๆ ก็คือแมวบาหลีอย่างที่กล่าวไปและแมวหิมาลายันด้วยค่ะ
- ถิ่นกำเนิด ประเทศไทย เป็นแมวโบราณที่มักเลี้ยงไว้ในวังตั้งแต่สมัยอยุธยา เพราะเชื่อว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
ลักษณะ ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)
ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหั ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า
ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
ลักษณะที่เป็นข้อด้อย ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)